หนุ่มช้ำใจ บินด่วนรับเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ สุดท้ายถูกหลอก สูญ 5 แสนบาท
หนุ่มบินด่วนจากสุราษฏร์ฯ หวังมารับเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ จากทหารลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี สุดท้ายถึงรู้ว่าถูกหลอก หมดเงินไปกว่า 5 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 พ.ย.) นายทอม (นามสมมติ) อายุ 27 ปี คนดูแลสวนทุเรียนที่ จ.สุราษฏร์ธานี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นิวัตร แจงกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกแก๊งริมปีสแกนที่หลอกต้มตุ๋นทางออนไลน์
โดยบอกว่าเป็นทหารลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี เหงาและอยากรู้จักตนเอง พูดคุยกันนานกว่า 2 เดือน ให้เดินทางมารับพัสดุ เป็นเงิน 1,500,000 ดอลลาร์ ที่ จ.อุดรธานี แต่สุดท้ายไม่มี โดนหลอกให้โอนเงินให้ 560,000 บาท หวังจะให้ตำรวจอายัดบัญชีให้ แต่ไม่ทันเสียแล้ว
นายทอม เปิดเผยว่า เมื่อ 2 เดือนที่แล้วมีคนใช้เฟซบุ๊กเข้าทักมาหาตนบอกว่าเป็นทหารหญิงลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี อยากรู้จักหนุ่มไทย และพูดคุยกันนานกว่า 2 เดือน จนตนเองรู้จักชอบ จากนั้นเขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะเงินดอลลาร์จำนวน 1,500,000 ดอลลาร์ มาให้ และจะเดินทางมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยร่วมกัน แต่ต้องจ่ายค่าพัสดุ
ตอนแรกตนก็ไม่เชื่อกลัวโดนหลอก ในการพูดคุยเขาก็ส่งใบมาบอกว่า มีใบรับรองการฟอกเงินและใบรับรองจากสหประชาชาติไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายเรียบร้อยแล้ว โดยตนเองได้คุยกันล่าสุดก็บอกว่าให้มารับได้ที่อุดร ในช่วงที่คุยกันตนเองทยอยส่งเงินไปให้เรื่อยๆ เป็นค่าใช้จ่ายต่าง รวมเบ็ดเสร็จแล้ว 560,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บมาทั้งชีวิต
พอเขาส่งภาพถ่ายใบรับรองฟอกเงิน ภาพเจ้าหน้าที่อยู่สนามบิน ภาพเงินดอลลาร์มาให้ดูก็หลงเชื่อ เพราะหากตีเป็นเงินไทย 48 ล้านบาทเลยทีเดียว จึงซื้อตั๋วเครื่องบินจาก จ.สุราษฏร์ธานี บินด่วนมา จ.อุดรธานี ทันที แต่เมื่อมาถึงตรวจสอบพัสดุไม่มีตามที่คุยกันติดต่อกลับก็ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้แล้ว
สอบถามเพื่อนซึ่งอยู่ที่อุดรธานี เพื่อนบอกว่า "เอ็งโดนหลอกแล้ว" จึงรีบมาแจ้งตำรวจเพื่อขออายัดบัญชี แต่ตำรวจบอกว่าเหตุเกิดที่ จ.สุราษฎร์ธานี จึงต้องไปแจ้งความที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้นายทอมคอตก สงสัยว่าจะสูญเงินครึ่งล้านแน่นอน จึงฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์อย่าหลงเชื่อใครในโซเซียลง่ายๆ